สำรวจกฎหมายกัญชา: กัญชาถูกกฎหมายในประเทศไทยหรือยัง
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ปี 2022 ประเทศไทยเราได้กลายเป็นประเทศที่ 3 ของโลก (และเป็นประเทศแรกในเอเชีย) ที่ปลดล็อกให้กัญชาเป็นพืชถูกกฎหมาย ต่อจากแคนาดาและอุรุกวัยที่ได้มีการปรับเปลี่ยนกฎหมายไปก่อนหน้านั้นแล้ว และนี่ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทย เพราะบ้านเรานั้นถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เข้มงวดเรื่องการใช้กัญชามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
กัญชาถูกลบชื่อออกจากสารเสพติดประเภทที่ 5 เป็นผลให้ผู้มีคดีความกว่า 3,000 คนที่กระทำความผิดเกี่ยวกับกัญชาถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่มีการปลดล็อกกฎหมายกัญชา การประกาศแก้ไขกฏหมายในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถครอบครอง ปลูก และบริโภคกัญชาเพื่อการแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมาย
การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ทำให้บุคคลที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป สามารถ “ครอบครอง ใช้ประโยชน์ และบริโภค” กัญชาได้ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือสามารถสูบกัญชาในประเทศไทยได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขกฎหมายเปิดเสรีกัญชาในครั้งนี้ได้ถูกตั้งคำถามมากมายจากหลายฝ่าย ซึ่งคำตอบทั้งหมดอยู่ในพรบ.กัญชา กัญชงที่คาดว่าจะออกมาในช่วงปลายปี 2022-2023 การเปลี่ยนข้อกฎหมายให้กัญชาถูกกฎหมายไม่ได้ถือว่าเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนสูบกัญชาแล้วเมาทั้งวัน แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือการช่วยเหลือผู้ที่มีอาการป่วยหรือผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ด้วยทางเลือกใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพ
ถึงแม้ว่าจะมีการเปิดเสรีกัญชาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สถานการณ์ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะการร่างกฎหมายยังคงต้องมีการอภิปรายกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งหากมีความคืบหน้าใด ๆ เกี่ยวกับข้อกฎหมาย ทาง Bloom จะนำมาอัปเดตให้คุณผู้อ่านอย่างเร็วที่สุด
การสูบและการครอบครองกัญชา
ในทางกฎหมาย ประชาชนชาวไทยสามารถครอบครองและสูบกัญชาได้แล้ว โดยสามารถหาซื้อกัญชาได้จากร้านค้าเพื่อนำมาใช้ในสถานที่ส่วนตัวได้อย่างเสรี อีกทั้งยังสามารถนำกัญชาขึ้นเครื่องบินในเที่ยวบินภายในประเทศได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถนำกัญชาขึ้นเครื่องบินเข้า-ออกประเทศได้ เนื่องจากข้อกฎหมายเกี่ยวกับกัญชานั้นแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ และยังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่ในหลาย ๆ ประเทศ… เคยมีนักเรียนชาวบราซิลรายหนึ่งซื้อกัญชาอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทยและนำขึ้นเครื่องไปที่บาหลี ผลปรากฏว่านักเรียนชาวบราซิลดังกล่าวถูกจับกุม เนื่องจากกัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศอินโดนีเซีย
เชื่อว่าหลาย ๆ คนมีความคิดอยากนำกัญชาเข้ามาขายในประเทศไทยพร้อมด้วยใบสั่งแพทย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำให้ทำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการนำกัญชาเข้ามาในเขตแดนไทยยังคงเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอยู่ ทางเราแนะนำให้หาซื้อกัญชาที่ขายอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศ เพราะเดี๋ยวนี้สามารถหาซื้อได้ง่าย และไม่จำเป็นต้องนำเข้าอีกต่อไป
แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังที่สุด คือ การสูบกัญชาในที่สาธารณะ
การสูบกัญชาในที่สาธารณะถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นการสร้างความรำคาญให้แก่บุคคลสาธารณะ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกสูงสุด 3 เดือนและปรับไม่เกิน 25,000 บาท พูดง่าย ๆ คือ ผู้ใช้กัญชาควรเคารพบุคคลรอบข้างในที่สาธารณะ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบกลิ่นกัญชา
ปัจจุบัน มีร้านขายกัญชามากมายที่จัดเตรียมห้องหรือสถานที่สูบกัญชาให้ลูกค้า หากต้องการสูบหรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ แนะนำให้ใช้บริการสถานที่เหล่านี้ดู
อาหารและเครื่องดื่มผสมกัญชา
ปัจจุบันมีการวางขายสินค้า อาหาร และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชามากมาย ตามกฎหมายได้กล่าวไว้ว่าสารสกัดกัญชาในอาหารหรือเครื่องดื่มต้องมี THC ไม่เกิน 0.2% ซึ่งสาร THC เป็นสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และเป็นสารในกัญชาที่ทำให้รู้สึกมึนเมา
และเนื่องจากสาร THC เป็นสารที่ออกฤทธิ์ทำให้รู้สึกมึนเมา ทางกฎหมายไทยจึงได้มีการกำหนดว่าอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา น้ำมัน CBD Oil ถูกกฎหมาย เยลลี่ หรือสินค้าอื่น ๆ จะได้รับอนุญาตให้มีส่วนผสมของสาร THC ในปริมาณที่เล็กน้อยเท่านั้น
ผู้ขายอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมกัญชาจะต้องทำตามหลักการความปลอดภัยด้านอาหาร คือ ต้องติดฉลากที่ระบุว่าสินค้านี้มีส่วนประกอบของกัญชาและต้องผ่านการอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยของสินค้ากัญชาด้วย
ในวันนี้ หากคุณลองเดินออกจากบ้านไปสักหน่อย คุณจะได้เห็นร้านอาหาร ร้านค้า หรือคาเฟ่มากมายที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผสมกัญชา บางแหล่งอาจมี THC มากกว่า 0.2% โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
การปลูกและการขายกัญชา
ปัจจุบัน ประชาชนสามารถซื้อขายสินค้าและผลิตภัณฑ์กัญชา/กัญชงได้อย่างถูกกฎหมาย อีกทั้งยังสามารถปลูกต้นกัญชาที่บ้านได้ 15 ต้น แต่การปลูกต้นกัญชาที่บ้านจะทำได้ในผู้ถือสัญชาติไทยเท่านั้น เพราะจำเป็นต้องลงทะเบียนที่เว็บไซต์โดยใช้หมายเลขบัตรประชาชนเท่านั้น ชาวต่างชาติไม่สามารถทำได้
เกร็ดน่ารู้: เมื่อเว็บไซต์เปิดให้ลงทะเบียน มีประชาชนผู้สนใจขอลงทะเบียนกว่า 30 ล้านบัญชี! ส่งผลให้ระบบเว็บไซต์ล่มไปสักพักเลยทีเดียว
หากต้องการขายกัญชา หรือสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับกัญชา ผู้จัดจำหน่ายจำเป็นต้องมีเอกสารและใบอนุญาต โดยจะต้องยื่นเอกสารต่าง ๆ เช่น ใบอนุญาตธุรกิจเชิงพาณิชย์ บัตรประจำตัวประชาชน รายละเอียดของสถานที่ที่รับซื้อกัญชามา และข้อมูลที่ตั้งของร้าน เป็นต้น
หากสินค้าที่ขายเป็นสินค้าประเภทเครื่องดื่มหรือเครื่องสำอางกัญชา สินค้าเหล่านั้นจำเป็นต้องผ่านการจดทะเบียนและขออนุญาตจากองค์การอาหารและยาเสียก่อน และต้องมั่นใจว่าสารสกัดในสินค้าดังกล่าวมี THC ไม่เกิน 0.2% เมื่อเทียบกับน้ำหนักของสินค้า
หมายเหตุ: เมื่อพรบ.กัญชา/กัญชงผ่านการบังคับใช้แล้ว อาจต้องมีใบอนุญาตสำหรับการปลูก การผลิตสารสกัด การขายพืชกัญชาและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการนำเข้าและส่งออกกัญชาด้วย
น้ำมัน CBD
น้ำมัน CBD ถูกกฎหมาย หรือสินค้าอื่น ๆ ที่มีสาร Cannabidiol อย่างเช่น เยลลี่ สามารถหาซื้อและบริโภคได้อย่างถูกกฎหมาย จริง ๆ แล้วสาร CBD ถือเป็นตัวเปิดทางให้กับกัญชาเสรีทางการแพทย์ในไทย เพราะสารตัวนี้ไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และไม่ทำให้เกิดอาการมึนเมา
กัญชาเพื่อการแพทย์
การใช้งานกัญชาเพื่อการแพทย์ถือเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย 100% ผู้ร่างกฎหมายและผู้สนับสนุนกัญชาต่างก็เชื่อว่าสมุนไพรนี้สามารถช่วยรักษาภาวะทางสุขภาพต่าง ๆ ได้
ประเด็นนี้ถือเป็นเหตุผลหลักที่อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนกัญชาให้ถูกกฎหมาย จุดประสงค์ก็เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวเลือกที่มากกว่าแค่การใช้ยาหรือสารเคมีเพื่อประโยชน์ทางด้านสุขภาพและทางการแพทย์ จึงทำให้ประเทศไทยกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่สำหรับผู้รักสุขภาพจากทั่วโลก
หากต้องการใช้กัญชาเพื่อสุขภาพหรือในเชิงทางการแพทย์ ก็สามารถเดินทางไปที่สถานบริการสาธารณสุขที่ทางรัฐอนุมัติเพื่อขอรับกัญชาทางการแพทย์ได้ ทั้งนี้ ใบสั่งยาจากต่างประเทศจะไม่สามารถใช้ได้ในประเทศไทย แต่จะสามารถใช้เพื่อยืนยันโรคกับแพทย์ได้
การครอบครองกัญชาจากใบสั่งแพทย์ จะสามารถครอบครองได้ไม่เกิน 30 วันต่อหนึ่งครั้ง
การสูบแฮช น้ำมันกัญชา และสารสกัดอื่น ๆ
แฮช (Hash) คือ สารสกัดกัญชาเข้มข้นที่มี THC ปริมาณที่สูง จึงถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายบ้านเรา
เช่นเดียวกับน้ำมัน THC ขี้ผึ้งแว็กซ์ แด๊ป เวเปอร์ไรเซอร์ และสารสกัดอื่น ๆ ที่แปรรูปมาจากพืชกัญชา สินค้าเหล่านี้ยังคงผิดกฎหมายในประเทศไทย และไม่แนะนำให้ใช้
เวเปอร์ไรเซอร์รูปแบบต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายบ้านเรามาโดยตลอด แม้จะเห็นคนใช้กันทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วมันยังคงผิดกฎหมายอยู่ การใช้เวเปอร์ไรเซอร์ถือว่ามีโทษหนักและหากฝ่าฝืนอาจต้องได้รับโทษทางกฎหมายด้วย
แนวทางกฎหมายกัญชาในอนาคต
ตลาดกัญชาในประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะโตขึ้นสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในช่วงกลางทศวรรษที่ 2020 โดยหนึ่งในเหตุผลหลัก ๆ ที่อยู่เบื้องหลังการปลดล็อกกฎหมายกัญชา คือ การปลดล็อกศักยภาพในการดูแลรักษาสุขภาพ ช่องทางในการทำเงิน และการส่งเสริมให้สังคมมีแหล่งรายได้ใหม่ ๆ
แม้ว่ากฎหมายเกี่ยวกับกัญชายังคงคลุมเครือและไม่ชัดเจน แต่ล่าสุดกฎหมายได้ผ่านการพิจารณาและบังคับใช้แล้ว โดยจะไม่มีการคืนคำหรือเป็นโมฆะตามที่คุณอนุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวไว้ว่า “เราจะเดินหน้าต่อ ไม่หันหลังกลับ”
แต่ทั้งนี้ กัญชาไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน ก่อนใช้กัญชา ต้องพึงระลึกเสมอว่า…
- การใช้กัญชาเพื่อความผ่อนคลายยังถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและยังไม่เป็นที่ยอมรับทั่วไปในสังคมไทย ดังนั้น ไม่แนะนำให้ใช้ในที่สาธารณะ
- สตรีมีครรภ์ คุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร และคนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ควรใช้ และไม่สามารถซื้อกัญชาได้
- ไม่ควรใช้กัญชาทั้งก่อนและระหว่างขับขี่ยานพาหนะใด ๆ
- น้ำมัน CBD และสินค้า CBD อื่น ๆ คือสินค้าถูกกฎหมาย
ทั้งนี้ เราอยากให้ผู้ใช้กัญชาทุกคนใช้งานพืชอันแสนมหัศจรรย์นี้อย่างมีความรับผิดชอบ และควรเคารพสถานที่และผู้คนส่วนรวมในพื้นที่สาธารณะด้วย