เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงคุ้นหูกับคำว่าน้ำมัน CBD หรือน้ำมันกัญชากันมากขึ้นหลังจากที่ประเทศไทยได้ทำการปลดล็อกกฎหมายใหม่สำหรับกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ และหนึ่งในสินค้ากัญชาเพื่อสุขภาพต้องยกให้น้ำมันกัญชา Full Spectrum ที่มอบคุณประโยชน์จากสารกัญชาอย่างครบถ้วน ซึ่งหากใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับประเภทของสารสกัดกัญชา บทความนี้จะมาแบ่งปันข้อมูล ทั้ง น้ำมัน CBD Full Spectrum คืออะไร มอบคุณประโยชน์อย่างไร และมีความเสี่ยงจากการใช้อย่างไรบ้าง

CBD Full Spectrum คืออะไร?

CBD Full Spectrum คือ CBD ที่ประกอบด้วยสารสกัดหลากหลายชนิดจากพืชกัญชา ไม่ว่าจะเป็นเทอร์พีน และสารแคนนาบินอยด์อื่น ๆ เช่น สาร CBD, CBC, CBG, CBN ฯลฯ และยังมีสาร THC มากถึง 0.3% ซึ่งเป็นสารที่ทำให้รู้สึกมึนเมาเคลิบเคลิ้ม

ถึงแม้ว่า CBD Full Spectrum อาจมี THC อยู่ด้วยในปริมาณที่เล็กน้อย ซึ่งปริมาณโดยส่วนมากจะมีอยู่ต่ำมาก (น้อยกว่า 0.3%) และไม่มากพอที่จะทำให้เกิดอาการมึนเมา แต่ทั้งนี้ การใช้ CBD ที่มีส่วนผสมของ THC อาจทำให้เกิดปัญหาหากไปตรวจสารเสพติดในร่างกาย

CBD Full Spectrum แตกต่างจาก CBD Isolate และ CBD Broad Spectrum อย่างไร

CBD ทั้งแบบ Full Spectrum, Isolate, และ Broad Spectrum เป็น CBD ที่มีความแตกต่างกันในแง่ของโปรไฟล์สาร cannabinoid ที่มีอยู่

• CBD Isolate เป็นรูปแบบ CBD ที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด โดยจะมีอยู่แค่สาร CBD เท่านั้น ส่วนสารอื่น ๆ เช่น สาร cannabinoids เทอร์พีน และสาร flavonoids อื่น ๆ จะถูกกำจัดออกทั้งหมด CBD Isolate จะมีความบริสุทธิ์ที่ 99% และไม่มีสาร THC เป็นส่วนประกอบ

• CBD Full Spectrum เป็นรูปแบบ CBD ที่มีส่วนประกอบของสารทั้งหมดที่พบได้ในพืชกัญชา ไม่ว่าจะเป็นสาร cannabinoids เทอร์พีน และสาร flavonoids รวมถึงมีส่วนประกอบของสาร THC ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในดอกกัญชาและทำให้รู้สึกมึนเมาเวลาใช้

• CBD Broad Spectrum มีความคล้ายคลึงกับ CBD Full Spectrum คือ เป็นรูปแบบ CBD ที่มีส่วนประกอบของสารทั้งหมดที่พบได้ในพืชกัญชา ทั้งสาร cannabinoids เทอร์พีน และสาร flavonoids แต่จะมีการตัดสาร THC ที่ทำให้รู้สึกมึนเมาออกไป

กล่าวโดยสรุปก็คือ CBD Isolate เป็น CBD ที่มีแต่สาร CBD เพียงอย่างเดียว ส่วน CBD Full Spectrum เป็น CBD ที่มีสารทุกอย่าง ทั้งสาร CBD, THC และสารอื่น ๆ ส่วน CBD Broad Spectrum เป็น CBD ที่มีสารทุกอย่างเช่นกัน ยกเว้นว่าไม่มีสาร THC นั่นเอง

CBD Full Spectrum กับ Entourage Effect ที่ช่วยเสริมให้ CBD ออกฤทธิ์ได้ดี

Entourage Effect เป็นทฤษฎีที่ว่าสารประกอบต่าง ๆ ที่พบในต้นกัญชา เช่น สาร cannabinoids, flavonoids และเทอร์พีนจะทำงานร่วมกันเพื่อเสริมฤทธิ์กันและกัน และสร้างคุณประโยชน์ในการเยียวยารักษาที่ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าการใช้แยกกันต่างหาก

CBD แบบ Full Spectrum ซึ่งประกอบไปด้วยสารประกอบกัญชาทั้งหมดจะมอบคุณประโยชน์ที่ครอบคลุมมากที่สุด เนื่องจากสารเหล่านี้ต่างเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน ทำให้ได้คุณผลประโยชน์ที่ดีกว่าการใช้สารประกอบกัญชาแยกกันแบบเดี่ยว ๆ

คุณประโยชน์และความเสี่ยงจากการใช้ CBD Full SPectrum

CBD แน่นอนว่าเมื่อมีประโยชน์ ก็ต้องมีความเสี่ยงที่อาจเกิดโทษ จากการศึกษาวิจัยถึงคุณประโยชน์และผลข้างเคียงของการใช้ CBD Full Spectrum สามารถสรุปได้ดังนี้

คุณประโยชน์ของ CBD Full Spectrum

• มอบประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีกว่า: การมีสารประกอบกัญชาต่าง ๆ อย่างครบถ้วนจะช่วยเพิ่มประโยชน์ในการรักษาโรคโดยการทำงานร่วมกันของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Entourage Effect
• มอบคุณสมบัติในการบรรเทาปวดได้ดี: งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า CBD Full Spectrum มีประสิทธิภาพในการลดอาการปวดและการอักเสบได้ดี
• ช่วยบรรเทาความวิตกกังวล: CBD Full Spectrum มีประสิทธิภาพในการลดความวิตกกังวลและช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น
• มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและปกป้องระบบประสาท: CBD Full Spectrumมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระและปกป้องระบบประสาท ซึ่งอาจไปช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดความผิดปกติของระบบประสาทได้

ความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโทษของ CBD Full Spectrum

• รู้สึกมึนเมา: แม้ CBD Full Spectrum จะมี THC น้อยกว่า 0.3% แต่ก็ยังอาจทำให้เกิดผลทางจิตประสาทได้ในบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้ในปริมาณสูง นอกจากนี้ อาจตรวจเจอสารหากต้องเข้ารับการตรวจสารเสพติดได้
• อาจส่งผลต่อยาที่ใช้อยู่: CBD อาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับยาต่าง ๆ เหล่านี้
• ขาดการควบคุม: ผลิตภัณฑ์ CBD ยังไม่ได้รับการควบคุมโดยองค์การอาหารและยาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทำให้คุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าบางแบรนด์อาจยังไม่ได้มาตรฐาน
• เกิดผลข้างเคียง: เช่น ปากแห้ง อาการง่วงนอน ความอยากอาหารและอารมณ์เปลี่ยนแปลง

วิธีเลือกน้ำมัน CBD Full Spectrum พร้อมวิธีใช้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

การเลือกซื้อน้ำมันกัญชา CBD Full Spectrum ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ความต้องการ และความชอบส่วนบุคคล โดยวิธีในการเลือกน้ำมัน CBD Full Spectrum สามารถทำได้ดังนี้

• มองหาสินค้าคุณภาพสูง: เลือกซื้อน้ำมัน CBD จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้มาตรฐานและเป้นที่ยอมรับว่าสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย ดีที่สุดหากแบรนด์นั้น ๆ มีการทดสอบผลิตภัณฑ์จากห้องแล็บเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความบริสุทธิ์
• ตรวจสอบความเข้มข้นของ THC: แม้ว่า CBD Full Spectrum จะมี THC น้อยกว่า 0.3% แต่ควรตรวจสอบฉลากสินค้าเพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณ THC อยู่ในระดับที่ต้องการ
• พิจารณาราคา: CBD Full Spectrum อาจมีราคาแพงกว่าน้ำมัน CBD ประเภทอื่น ๆ แต่สิ่งสำคัญ คือ การจ่ายในสินค้าคุณภาพสูงเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
• อ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง: รีวิวจากผู้ใช้จริงถือเป็นตัวการันตีคุณภาพของสินค้าได้อย่างดีเยี่ยม หากผู้ใช้ส่วนใหญ่มีความเห็นต่อสินค้าเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าดี แสดงว่าสินค้านั้นเป็นของดีและใช้ได้เห็นผลจริง

สำหรับการใช้น้ำมัน CBD เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดนั้นก่อนอื่นเลยเราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเสียก่อน เพื่อดูว่าเงื่อนไขด้านสภาพร่างกายสามารถใช้น้ำมันกัญชาแบบ Full Spectrum ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ นอกจากนี้ หากมีการใช้ยาใด ๆ อยู่ก็อาจต้องมีการพิจารณาลดโดสยาหรือหยุดยาบางตัว

หากแพย์ยืนยันว่าสามารถใช้น้ำมันกัญชาได้อย่างปลอดภัย ขั้นตอนต่อมาคือการหาโดสที่เหมาะสมกับตัวเอง ทั้งนี้ ปริมาณการใช้ที่เหมาะสมนั้นไม่มีปริมาณที่กำหนดมาตายตัว เพราะการคำนวณการใช้ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักและผลลัพธ์ที่ต้องการ เราแนะนำให้เริ่มใช้ในปริมาณน้อย ๆ และค่อยเพิ่มปริมาณหลังจากสังเกตอาการหลังใช้ไป 2-3 วัน หากต้องการ

สรุป น้ำมัน CBD Full Spectrum คืออะไร

น้ำมัน CBD Full Spectrum เป็นน้ำมัน CBD ที่มีส่วนผสมของสารประกอบกัญชาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสาร CBD, CBC, CBG, CBN รวมไปถึง THC และเทอร์พีน จึงมอบคุณประโยชน์ในการดูแลสุขภาพได้อย่างครบถ้วน น้ำมันกัญชาประเภทนี้อาจทำให้รู้สึกมึนเมาในผู้ที่อ่อนไหวต่อสาร อีกทั้งยังอาจทำให้ตรวจเจอสารเสพติด ดังนั้น จึงควรศึกษาอย่างถี่ถ้วนก่อนใช้